บทที่ 3 การจัดการข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
ฐานข้อมูล หมายถึง แหล่งที่ใช้สำหรับการรวบรวมโดยข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปแฟ้มข้อมูลมารวม
ไว้ที่เดียวกัน
การเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการเก็บข้อมูลไว้ในสื่อบันทึก เช่น
เทปแม่เหล็ก แผ่นบันทึก
หรือจาน
(2) ตัวอักขระ ( character) หมายถึงตัวอักขระแต่ละตัว ซึ่งอาจเป็นตัวเลข
ตัวอักษรหรือเครื่องหมายใด ๆ
(3) เขตข้อมูล (field) หมายถึงหน่วยข้อมูลหน่วยหนึ่งที่กำหนดขึ้นมาแทนความหมายใด
ความหมายหนึ่ง
(4) ระเบียนข้อมูล ( record) หมายถึงกลุ่มของเขตข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน
ระเบียนข้อมูลประกอบด้วย
(5) แฟ้มข้อมูล ( file) หมายถึงกลุ่มของระเบียนข้อมูลแบบเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยระเบียน
ข้อมูลตั้งแต่หนึ่ง
พิจารณาการเก็บประวัติของนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ประวัติของนักเรียนคนหนึ่ง ๆ
จะบันทึกลงในระเบียน
จากรูปจะเห็นว่า นักเรียนแต่ละคนมีประวัติ 1 ใบ หรือ 1 ระเบียน
เก็บอยู่ในแฟ้มประวัตินักเรียนทั้ง
ในการจัดเก็บข้อมูลต้องกำหนดคุณสมบัติของข้อมูลให้ชัดเจนตลอดจนวิธีการเตรียม
ข้อมูลเพื่อการประมวลผลดังต่อไปนี้
(1) กำหนดชื่อและจำนวนเขตข้อมูลในระเบียนข้อมูล เช่น ในระเบียนข้อมูลนักเรียน
ในรูปแสดงการจัดเก็บ
เขตข้อมูลที่ 1 ชื่อเขตข้อมูล ID หมายถึง เลขประจำตัวนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 2 ชื่อเขตข้อมูล NAME หมายถึง ชื่อสกุลนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 3 ชื่อเขตข้อมูล SEX หมายถึง เพศของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 4 ชื่อเขตข้อมูล BIRTHDAY หมายถึง วันเดือนปีเกิดของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 5 ชื่อเขตข้อมูล FA_ NAME หมายถึง ชื่อบิดาของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 6 ชื่อเขตข้อมูล MO_NAME หมายถึง ชื่อมารดาของนักเรียน
(2) กำหนดชนิดและขนาดของเขตข้อมูลแต่ละเขต เช่น เขตข้อมูล NAME
เป็นตัวหนังสือมีขนาดที่เก็บ 30
(3) กำหนดวิธีการและสื่อในการจัดเก็บข้อมูล แฟ้มข้อมูลจะได้รับการนำไปเก็บ
ไว้ในหน่วยความจำ
จากความหมายที่กล่าวมาข้างต้น ระบบฐานข้อมูลจะประกอบด้วยแฟ้มข้อมูล
จำนวนหลายๆ แฟ้มดัง
1.การจัดการข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันสังคมเป็นสังคมสารสนเทศ ข้อมูลถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของทุกๆหน่วยงาน
ไม่ว่าขนาดใหญ่
ไม่ว่าขนาดใหญ่
หรือเล็ก หน่วยงานที่สามารถจัดการข้อมูลได้ดีกว่าย่อมได้เปรียบกว่าในทุกๆด้าน
ดังนั้นจึงได้มีความ
ดังนั้นจึงได้มีความ
พยายามทำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลโดยมี
จุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูล
จุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูล
ของหน่วยงานมีความถูกต้อง แม่นยำ ทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด
หากจะพิจารณาถึง
หากจะพิจารณาถึง
การจัดการข้อมูลย่อมจะหมายถึง การจัดเก็บข้อมูลการเรียกใช้ข้อมูล รวมถึงการ
วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำ
วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำ
มาใช้งาน ลองพิจารณาถึงคลินิกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นหน่วยงานเล็กๆ ก็ยังต้องมีการ
เก็บรวมข้อมูลคนไข้
เก็บรวมข้อมูลคนไข้
ที่มารับการรักษา ข้อมูลที่ต้องการเก็บ ได้แก่ ประวัติส่วนตัวของคนไข้
อาการที่มารับการรักษา วิธีการ
อาการที่มารับการรักษา วิธีการ
รักษา และผลการรักษา วิธีหนึ่งที่ทำกันก็คือการจดบันทึกทั้งหมดลงบนกระดาษและ
เก็บกระดาษนั้นไว้
ซึ่งมีหัวข้อที่ซ้ำกัน เช่น ข้อความของหัวข้อ ชื่อคนไข้ และที่อยู่ ฯลฯ
หากเจ้าหน้าที่ต้องเขียนทุกใบก็
หากเจ้าหน้าที่ต้องเขียนทุกใบก็
จะเป็นการเสียเวลา ดังนั้นทางคลินิกอาจใช้วิธีจ้างโรงพิมพ์พิมพ์แบบฟอร์มขึ้นมา
เพื่อให้การกรอก
เพื่อให้การกรอก
ข้อมูลง่ายขึ้นในการเก็บข้อมูลเหล่านี้ ทางคลินิกใช้ตู้เก็บเอกสารขนาดใหญ่สำหรับ
เก็บแบบฟอร์มและเรียงไว้ในลิ้นชัก
เก็บแบบฟอร์มและเรียงไว้ในลิ้นชัก
เมื่อมีคนไข้ใหม่เพิ่มมากขึ้นก็เพิ่มแบบฟอร์มแผ่นใหม่เข้าไป และในการใช้
ข้อมูลเมื่อมีคนไข้มาติดต่อ
ข้อมูลเมื่อมีคนไข้มาติดต่อ
เจ้าหน้าที่ต้องค้นหาข้อมูลเดิมของคนไข้ วิธีหนึ่งทำได้คือตรวจข้อมูลบน
บัตรคนไข้ทีละใบตั้งแต่ใบ
บัตรคนไข้ทีละใบตั้งแต่ใบ
แรกจนพบ การค้นหาวิธีนี้อาจเสียเวลามากแต่ถ้าจัดเก็บข้อมูลโดยเรียงชื่อตามอักษรไว้แล้ว
จะทำได้
จะทำได้
รวดเร็วขึ้น
การจัดเก็บและดูแลข้อมูลที่ดี จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างมีระบบ และเป็นระเบียบ
เพื่อทำให้สามารถ
การจัดเก็บและดูแลข้อมูลที่ดี จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างมีระบบ และเป็นระเบียบ
เพื่อทำให้สามารถ
เรียกใช้ข้อมูลและดูแลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถเรียกใช้ข้อมูลหรือ
ค้นหาข้อมูลได้
ค้นหาข้อมูลได้
ทันท่วงที เพราะฉะนั้นเราจึงต้องศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการจัดการฐานข้อมูล
ซึ่งเครื่องมือที่มีความ
ซึ่งเครื่องมือที่มีความ
สามารถในการจัดการข้อมูล ก็คือ“ ระบบฐานข้อมูล ”
2. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ฐานข้อมูล หมายถึง แหล่งที่ใช้สำหรับการรวบรวมโดยข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปแฟ้มข้อมูลมารวม
ไว้ที่เดียวกัน
รวมทั้งส่วนของพจนานุกรมข้อมูล เก็บคำอธิบายเกี่ยวกับโครงสร ้างฐานข้อมูล
และข้อมูลที่จัดเก็บนั้นต้อง
และข้อมูลที่จัดเก็บนั้นต้อง
มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทำให้สามารถสืบค้น แก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ระบบฐานข้อมูล หมายถึง
ระบบฐานข้อมูล หมายถึง
ระบบการรวบรวมแฟ้มข้อมูลหลายๆแฟ้มข้อมูลเข้าด้วยกันโดยขจัดความซ้ำซ้อน
ของข้อมูลออก แล้วเก็บ
ของข้อมูลออก แล้วเก็บ
ข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง เพื่อการใช้งานร่วมกันในองค์กร ภายในระบบต้องมีส่วนที่เป็น
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่
สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงและใช้งานข้อมูลในฐานข้อมูลและจะต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัย
ของข้อมูล
ของข้อมูล
เหล่านั้นมีการกำหนดสิทธิข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนให้แตกต่างกันตาม
แต่ความต้องการในการใช้งาน
แต่ความต้องการในการใช้งาน
โครงสร้างของข้อมูล
การเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการเก็บข้อมูลไว้ในสื่อบันทึก เช่น
เทปแม่เหล็ก แผ่นบันทึก
หรือจาน
แม่เหล็ก โดยที่ฐานข้อมูลนั้นอยู่ในรูปของเลขฐานสองหลายบิตเรียงกัน ดังนั้นในการ
นำคอมพิวเตอร์มาช่วยใน
นำคอมพิวเตอร์มาช่วยใน
การประมวลผล จึงต้องกำหนดรูปแบบหรือโครงสร้างของข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้งานและ
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ
ได้ตรงกัน โดยโครงสร้างของข้อมูลจะประกอบด้วย 5 ลำดับ ดังนี้
(1) บิต ดังที่ได้เคยกล่าวไปแล้วว่าบิตคือตัวเลขโดดในระบบเลขฐานสอง ซึ่งมีค่าได้เพียง
0 หรือ 1 บิตเป็น
0 หรือ 1 บิตเป็น
หน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดในการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์
(2) ตัวอักขระ ( character) หมายถึงตัวอักขระแต่ละตัว ซึ่งอาจเป็นตัวเลข
ตัวอักษรหรือเครื่องหมายใด ๆ
การแทนตัวอักขระแต่ละตัวในคอมพิวเตอร์ใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิต ซึ่งเราเรียกอีกอย่างว่าไบต์
(3) เขตข้อมูล (field) หมายถึงหน่วยข้อมูลหน่วยหนึ่งที่กำหนดขึ้นมาแทนความหมายใด
ความหมายหนึ่ง
เขตข้อมูลแต่ละเขตประกอบด้วยตัวอักขระตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป
(4) ระเบียนข้อมูล ( record) หมายถึงกลุ่มของเขตข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน
ระเบียนข้อมูลประกอบด้วย
เขตข้อมูลตั้งแต่หนึ่งเขตขึ้นไป
(5) แฟ้มข้อมูล ( file) หมายถึงกลุ่มของระเบียนข้อมูลแบบเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยระเบียน
ข้อมูลตั้งแต่หนึ่ง
ระเบียนขึ้นไป
พิจารณาการเก็บประวัติของนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ประวัติของนักเรียนคนหนึ่ง ๆ
จะบันทึกลงในระเบียน
ประวัติหนึ่งใบ โดยประกอบด้วยเขตข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือน ปีเกิด ฯลฯ
โดยที่ข้อมูลเหล่านี้อาจ
โดยที่ข้อมูลเหล่านี้อาจ
เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรก็ได้ และใบระเบียนประวัติของนักเรียนในโรงเรียนจะได้รับการ
จัดเก็บไว้ในแฟ้ม
จัดเก็บไว้ในแฟ้ม
เดียวกัน
แสดงตัวอย่างการจัดเก็บประวัตินักเรียน
จากรูปจะเห็นว่า นักเรียนแต่ละคนมีประวัติ 1 ใบ หรือ 1 ระเบียน
เก็บอยู่ในแฟ้มประวัตินักเรียนทั้ง
โรงเรียน เมื่อดึงประวัตินักเรียน 1 คนมา พิจารณา จะประกอบด้วยเขตข้อมูลรายละเอียด
ดังรูปทาง
ดังรูปทาง
ขวามือและจากรูปสามารถสรุปได้ว่า
ระเบียนประวัติของนักเรียนทั้งหมดเรียกว่า แฟ้มข้อมูล ประวัตินักเรียนของโรงเรียน
ระเบียนประวัติของนักเรียนแต่ละคนเรียกว่า ระเบียนข้อมูล ประวัตินักเรียน
ข้อมูลแต่ละค่าในระเบียนประวัติ เรียกว่า เขตข้อมูล ประวัตินักเรียนซึ่งอาจ
เป็นตัวเลขหรือตัว
เป็นตัวเลขหรือตัว
หนังสือ
สำหรับการจัดเก็บข้อมูลเพื่อการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์นั้น
จะมีการจัดเหมือนกับการจัด
จะมีการจัดเหมือนกับการจัด
ข้อมูลทั่วไป คือ เป็นแฟ้มข้อมูล ระเบียนข้อมูล และเขตข้อมูล
จากภาพการจัดการข้อมูลทั่วไปในรูป
จากภาพการจัดการข้อมูลทั่วไปในรูป
แสดงการจัดเก็บประวัตินักเรียนนั้น สามารถจัดเก็บในคอมพิวเตอร์ได้ดังรูป
โดยจะเห็นว่าแฟ้มข้อมูล
โดยจะเห็นว่าแฟ้มข้อมูล
อยู่ในรูปตารางสองมิติ และแต่ละแถวจะแสดงระเบียนแต่ละระเบียน
และแต่ละสดมภ์จะแสดงเขต
และแต่ละสดมภ์จะแสดงเขต
ข้อมูลต่าง ๆ แต่ละเขตข้อมูลที่มีชื่อกำกับบอกไว้ จะสังเกตได้ว่าความสัมพันธ์
ของข้อมูลจะสัมพันธ์กัน
ของข้อมูลจะสัมพันธ์กัน
ในแต่ละระเบียน โดยมีความหมายในตัวเองและไม่เกี่ยวข้องกับลำดับระเบียน
ในการจัดเก็บข้อมูลต้องกำหนดคุณสมบัติของข้อมูลให้ชัดเจนตลอดจนวิธีการเตรียม
ข้อมูลเพื่อการประมวลผลดังต่อไปนี้
(1) กำหนดชื่อและจำนวนเขตข้อมูลในระเบียนข้อมูล เช่น ในระเบียนข้อมูลนักเรียน
ในรูปแสดงการจัดเก็บ
ประวัตินักเรียนในคอมพิวเตอร์ อาจประกอบด้วยเขตข้อมูลจำนวน 6 เขต คือ
เขตข้อมูลที่ 2 ชื่อเขตข้อมูล NAME หมายถึง ชื่อสกุลนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 3 ชื่อเขตข้อมูล SEX หมายถึง เพศของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 4 ชื่อเขตข้อมูล BIRTHDAY หมายถึง วันเดือนปีเกิดของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 5 ชื่อเขตข้อมูล FA_ NAME หมายถึง ชื่อบิดาของนักเรียน
เขตข้อมูลที่ 6 ชื่อเขตข้อมูล MO_NAME หมายถึง ชื่อมารดาของนักเรียน
(2) กำหนดชนิดและขนาดของเขตข้อมูลแต่ละเขต เช่น เขตข้อมูล NAME
เป็นตัวหนังสือมีขนาดที่เก็บ 30
ตัวอักษร
ไว้ในหน่วยความจำ
ของคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลนี้อาจได้รับการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหรือตัดออกได้
3. ระบบฐานข้อมูล
จากความหมายที่กล่าวมาข้างต้น ระบบฐานข้อมูลจะประกอบด้วยแฟ้มข้อมูล
จำนวนหลายๆ แฟ้มดัง
ตัวอย่างในรูป แฟ้มข้อมูลเหล่านี้ต้องมีการจัดระบบแฟ้มไว้อย่างดี กล่าวคือ
ข้อมูลในแฟ้มข้อมูลเดียวกัน
ต้องไม่มีการซ้ำซ้อนกัน แต่ระหว่างแฟ้มข้อมูลอาจมีการซ้ำซ้อนกันได้บ้าง
และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้
และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้
สามารถเข้าถึงข้อมูล และค้นหาได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถ เพิ่มเติม
หรือลบออกได้โดยไม่ทำให้ข้อมูล
หรือลบออกได้โดยไม่ทำให้ข้อมูล
อื่นเสียหาย
แฟ้มแต่ละแฟ้มในฐานข้อมูล แสดงให้เห็นว่า แฟ้มข้อมูลทั้งหมดใน
ฐานข้อมูลอาจมีความสัมพันธ์กัน
ฐานข้อมูลอาจมีความสัมพันธ์กัน
โดยความสัมพันธ์ระหว่างแฟ้มข้อมูลแสดงโดยเส้นตรงเชื่อมโยงระหว่าง 2
แฟ้มข้อมูลสมมติว่าแฟ้ม
แฟ้มข้อมูลสมมติว่าแฟ้ม
ข้อมูลอาจารย์ประกอบด้วยเขตข้อมูลต่างๆ ได้แก่ ชื่อ ตำแหน่ง เงินเดือน
ที่อยู่ ฯลฯ ส่วนแฟ้มข้อมูล
ที่อยู่ ฯลฯ ส่วนแฟ้มข้อมูล
นักเรียนนั้นอาจประกอบด้วยเขตข้อมูล เลขประจำตัวนักเรียน ชื่อ ที่อยู่ ฯลฯ
และต้องมีตัวชี้ว่ามีใครเป็น
และต้องมีตัวชี้ว่ามีใครเป็น
อาจารย์ประจำชั้น ในแฟ้มข้อมูลนักเรียนอาจเก็บชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาไว้เพื่อ
เป็นตัวชี้ก็ได้ แต่จะทำให้
เป็นตัวชี้ก็ได้ แต่จะทำให้
เสียเนื้อที่การเก็บข้อมูลมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องหาทางสร้างตัวชี้ที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น สร้างรหัส
ตัวอย่างเช่น สร้างรหัส
อาจารย์ประจำชั้นเพื่อเป็นตัวชี้แทนชื่อของอาจารย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น